HIFU

การยกกระชับผิวด้วย HIFU: นวัตกรรมดูแลผิวแบบไม่ต้องผ่าตัด

ในโลกของความงามที่ก้าวหน้าไปอย่างไม่หยุดยั้ง HIFU (High-Intensity Focused Ultrasound) ได้รับการยอมรับอย่างแพร่หลายว่าเป็นหนึ่งในเทคโนโลยีที่ช่วยยกกระชับผิวและปรับรูปหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่ต้องพึ่งการผ่าตัด ทำให้เป็นทางเลือกยอดนิยมสำหรับผู้ที่ต้องการฟื้นฟูความอ่อนเยาว์โดยไม่ต้องมีบาดแผลและใช้เวลาพักฟื้นน้อย

HIFU คืออะไร?

HIFU ย่อมาจาก High-Intensity Focused Ultrasound เป็นนวัตกรรมที่ใช้พลังงานคลื่นอัลตราซาวด์ความเข้มข้นสูงและมีความเฉพาะเจาะจง ส่งพลังงานเป็นจุดเล็กๆ ลงลึกถึงชั้นผิวหนังชั้น SMAS (Superficial Muscular Aponeurotic System) ซึ่งเป็นชั้นเดียวกับที่แพทย์ศัลยกรรมใช้ในการผ่าตัดดึงใบหน้า เมื่อพลังงานลงสู่ชั้น SMAS จะเปลี่ยนเป็นพลังงานความร้อน ทำให้เนื้อเยื่อบริเวณนั้นเกิดการหดตัวในทันที และกระตุ้นให้ร่างกายสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใหม่ในระยะยาว ส่งผลให้ผิวหนังบริเวณที่ทำกระชับ เต่งตึง และยกกระชับขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ

กลไกการทำงานของ HIFU เพื่อการยกกระชับ

หลักการทำงานของ HIFU คือการส่งคลื่นอัลตราซาวด์ที่มีความถี่สูงและโฟกัสไปที่จุดเป้าหมายใต้ผิวหนัง โดยไม่ทำลายผิวชั้นบน พลังงานความร้อนที่เกิดขึ้นในระดับความลึกที่เหมาะสม (เช่น 1.5 มม., 2.0 มม., 3.0 มม., 4.5 มม. หรือลึกกว่านั้นสำหรับร่างกาย) จะทำให้:

• การหดตัวของคอลลาเจน: ความร้อนทำให้เส้นใยคอลลาเจนเดิมหดตัวทันที ส่งผลให้เกิดการยกกระชับผิวบางส่วนได้ตั้งแต่หลังทำเสร็จ
• การกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่: พลังงานความร้อนจะไปกระตุ้นเซลล์ Fibroblasts ซึ่งมีหน้าที่สร้างคอลลาเจนและอีลาสติน ทำให้มีการผลิตคอลลาเจนใหม่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในระยะเวลา 1-3 เดือนหลังทำ ทำให้ผิวมีความตึงและแข็งแรงขึ้น
• การจัดเรียงตัวใหม่ของคอลลาเจน: คอลลาเจนที่สร้างขึ้นใหม่จะมีการจัดเรียงตัวที่เป็นระเบียบมากขึ้น ส่งผลให้ผิวเรียบเนียน รูขุมขนกระชับ และคุณภาพผิวโดยรวมดีขึ้น

ประโยชน์ของการยกกระชับผิวด้วย HIFU

HIFU มีประโยชน์มากมายในการฟื้นฟูและยกกระชับผิว:

• ยกกระชับผิวหน้าและลำคอ: ช่วยแก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อยบริเวณแก้ม ร่องแก้ม มุมปาก คาง และลำคอ ให้กลับมาตึงกระชับ
• ปรับรูปหน้าให้เรียว: ช่วยเก็บกรอบหน้าให้คมชัดขึ้น ลดไขมันแก้ม ทำให้ใบหน้าดูเรียวขึ้น
• ลดเลือนริ้วรอย: ลดริ้วรอยเล็กๆ และริ้วรอยที่เกิดจากการหย่อนคล้อยของผิว
• กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน: เพิ่มความยืดหยุ่นและความแข็งแรงให้กับผิวในระยะยาว ทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์อย่างเป็นธรรมชาติ
• ยกกระชับปรับแนวคิ้ว: ยิงบริเวณคิ้วและหน้าผากที่หย่อนคล้อย ทำให้ดวงตาดูโตขึ้น
• ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น: เป็นหัตถการที่ไม่ใช่การผ่าตัด ไม่มีบาดแผลใหญ่ หลังทำสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ
• ความปลอดภัยสูง: หากทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและใช้เครื่องมือที่ได้มาตรฐาน HIFU ถือว่ามีความปลอดภัยสูง
• สามารถทำซ้ำได้: สามารถทำซ้ำได้ทุก 3-6 เดือน เพื่อรักษาผลลัพธ์และกระตุ้นคอลลาเจนอย่างต่อเนื่อง

ข้อควรพิจารณาและผลข้างเคียง

แม้ว่า HIFU จะมีความปลอดภัยสูง แต่ก็อาจมีผลข้างเคียงเล็กน้อยที่พบได้:

• อาการเจ็บขณะทำ: ขณะทำอาจรู้สึกเจ็บหรือตึงๆ ใต้ผิวหนัง ซึ่งเป็นเรื่องปกติและสามารถทนได้
• อาการหลังทำ: รู้สึกตึงๆ บริเวณที่ทำ ซึ่งมักจะหายไปได้เองภายใน 1-7 วัน
• อาการชา: ในบางรายอาจมีอาการชาชั่วคราวบริเวณใบหน้า ซึ่งเกิดจากพลังงานไปกระตุ้นเส้นประสาท แต่ส่วนใหญ่จะหายไปเองภายใน 2-3 สัปดาห์

ความแตกต่างระหว่าง HIFU และการร้อยไหม

HIFU และการร้อยไหมเป็นหัตถการที่ช่วยยกกระชับผิวเหมือนกัน แต่มีกลไกและลักษณะการทำงานที่แตกต่างกัน:

การดูแลตัวเองหลังทำ HIFU

เพื่อให้ผลลัพธ์ของการทำ HIFU มีประสิทธิภาพและอยู่ได้นาน ควรดูแลตัวเองดังนี้:

• หลีกเลี่ยงแสงแดดจัด: ประมาณ 1-2 สัปดาห์ และทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูงเสมอ
• หลีกเลี่ยงการนวดหรือถูใบหน้าแรงๆ: ประมาณ 2 สัปดาห์หลังทำ
• งดกิจกรรมที่ทำให้หน้าแดง: เช่น การออกกำลังกายหนัก การเข้าซาวน่า หรืออบไอน้ำ ประมาณ 1-2 วัน
• งดสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์: เพราะจะส่งผลเสียต่อการสร้างคอลลาเจนใต้ผิว
• นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ: และดื่มน้ำมากๆ เพื่อช่วยให้ร่างกายฟื้นฟูและสร้างคอลลาเจนได้อย่างเต็มที่
• รับประทานอาหารที่มีประโยชน์: โดยเฉพาะอาหารที่ช่วยบำรุงผิวและเสริมสร้างคอลลาเจน

สรุป

HIFU เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับการยกกระชับผิวและปรับรูปหน้าโดยไม่ต้องผ่าตัดใหญ่ จึงไม่ต้องพักฟื้น เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการให้ใบหน้ากระชับ โดยไม่ต้องพักฟื้น อย่างไรก็ตาม การเลือกคลินิกที่มีแพทย์ผู้ชำนาญการด้านผิวหนังที่มีประสบการณ์เป็นสิ่งสำคัญ