ปานแดงรักษาได้ อย่าลังเลใจที่จะพบแพทย์
ปานแดงสามารถเกิดขึ้นบนผิวหนังบริเวณใดของร่างกายก็ได้ สามารถส่งผลกระทบต่อความสวยงามและสร้างความกังวลใจให้แก่ผู้ป่วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากปานแดงนั้นเกิดบนใบหน้าหรือมีขนาดใหญ่ ปัจจุบันมีการรักษาที่สามารถช่วยผู้ป่วยปานแดงให้ดีขึ้นได้
พญ.นิอร บุญเผื่อน แพทย์เฉพาะทางด้านผิวหนังเด็กและผู้ใหญ่ ประจำลัลลลิตาคลินิก ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องปานแดงไว้ดังนี้ ปานแดงที่พบบ่อยมี 2 ชนิดด้วยกัน คือ ชนิดที่หนึ่ง ปานเนื้องอกหลอดเลือดในเด็ก (Infantile Hemangioma) มักเริ่มพบในช่วงอายุ 2 – 3 สัปดาห์ เห็นเป็นเพียงลักษณะรอยแดงราบ หรือเป็นจุดสีแดงขนาดเล็ก จากนั้นก้อนเนื้องอกโตขึ้นอย่างรวดเร็ว และมีช่วงการเจริญเติบโตสูงสุดในช่วงอายุ 6-9 เดือน โดยสามารถแบ่งย่อยตามความลึก
ปานเนื้องอกหลอดเลือดชนิดตื้น เห็นเป็นปานสีแดงสดบนผิวหนัง
ปานเนื้องอกหลอดเลือดชนิดลึก เห็นเป็นสีเขียว หรือน้ำเงิน หรือสีเดียวกับผิวหนัง คลำได้ก้อนที่อยู่ใต้ผิวหนัง
หรือในบางรายเป็นชนิดผสม คือ อยู่ในตำแหน่งทั้งตื้นและลึก
การดำเนินโรคนี้ โดยทั่วไปอาจโตได้จนถึงอายุ 1 – 2 ปี ต่อมาก้อนจะมีขนาดคงที่ ซึ่งผู้ป่วยแต่ละรายระยะนี้ใช้เวลาไม่เท่ากัน หลังจากนั้นก้อนเริ่มยุบลงเรื่อยๆ มีสีซีดลงเปลี่ยนจากสีแดงเป็นสีม่วงอมเทา เริ่มแบนและยุบลง ถ้าเป็นก้อนตึงจะค่อยๆนิ่มลง เนื่องจากมีเนื้อเยื่อไขมันและพังผืดเข้ามาแทนที่ ใช้เวลาหลายปี
ส่วนใหญ่ไม่จำเป็นต้องได้รับการรักษา เพียงเฝ้าติดตามและสังเกตอาการ เนื่องจากสามารถหายไปได้เองในที่สุด มีเพียงร้อยละ 10 ที่ต้องการการรักษา เช่นกรณีดังต่อไปนี้ 1. ปานเนื้องอกหลอดเลือดที่อยู่บนใบหน้าอาจส่งผลให้เกิดความไม่สวยงามหรือมีโอกาสเกิดแผลเป็น 2. อยู่ในตำแหน่งที่มีโอกาสบดบังการมองเห็น เช่น เปลือกตา 3.ก้อนโตขึ้นเร็วมากๆจนเกิดการแตกเป็นแผล มีเลือดออก เป็นต้น
หากปานเนื้องอกหลอดเลือดเลือดอยู่บนหน้าผากด้านใดด้านหนึ่งและมีขนาดใหญ่มากกว่า 5 เซนติเมตร ควรต้องรีบปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจร่างกายและตรวจเพิ่มเติมอย่างละเอียด เนื่องจากมีโอกาสที่จะเป็นโรคในกลุ่มอาการ PHACEs เช่น ความผิดปกติของสมอง หัวใจ หลอดเลือด ตา ซึ่งกลุ่มอาการนี้จำเป็นต้องอาศัยแพทย์เฉพาะทางในหลายแขนงร่วมกันดูแล
หรือหากมีปานเนื้องอกหลอดเลือดจำนวน 5 จุดขึ้นไป ควรต้องตรวจเพิ่มเติมเนื่องจากมีความเสี่ยงในการเกิดเนื้องอกหลอดเลือดภายในอวัยวะภายใน เช่น ตับ ทางเดินอาหาร ทำให้เสียเลือดหรือเสียชีวิตได้ รวามถึงการทำงานของต่อมไทรอยด์ผิดปกติ
การรักษามีได้หลายวิธี เช่น การทายา การรับประทานยา เลเซอร์ หรือผ่าตัด ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับชนิดของปานเนื้องอกหลอดเลือด ตำแหน่ง ระยะของโรค อายุของผู้ป่วย โรคประจำตัว ควรปรึกษาแพทย์เพื่อที่จะให้การตรวจวินิจฉัย ให้คำปรึกษาและเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสมต่อไป
2.ปานแดงหลอดเลือด (Port-Wine Stain) เป็นตั้งแต่เกิด มักเป็นแผ่นสีแดงราบบนผิวหนัง ขยายขนาดหรือหนาขึ้นอย่างช้าๆเมื่ออายุมากขึ้น ไม่หายไปได้เอง ยังไม่มียาหลักในการรักษา
การรักษาหลักในปัจจุบัน คือ การใช้แสงเลเซอร์ชนิดที่จับและทำลายหลอดเลือดแดงที่อยู่บนผิวหนัง โดยต้องทำหลายครั้งจึงเห็นผล ทั้งนี้ผลการรักษาขึ้นอยู่กับความหนาของปาน การตอบสนองต่อเลเซอร์ เครื่องและชนิดของเลเซอร์ที่ใช้ และความชำนาญของผู้ให้การรักษาประกอบกัน ผู้ป่วยควรมารับการรักษาโดยเร็วจะให้ผลดีกว่า เนื่องจากปานไม่หนามาก แสงเลเซอร์สามารถเข้าถึงได้ดี ทำให้จำนวนครั้งที่ใช้ในการรักษาน้อยลง ค่ารักษาถูกกว่า เมื่อเทียบกับการปล่อยไว้นาน
นอกจากนี้หากไม่ได้รับการรักษาอาจจะทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น ปานแดงนูนหนาตัวขึ้น จนทำให้โครงสร้างของอวัยวะที่มีปานอยู่มีรูปร่างผิดปกติไปเนื่องจากมีเลือดมาเลี้ยงบริเวณนั้นมาก มีตุ่มนูนแดงเกิดขึ้นบนปานเดิม มีเลือดออก เจ็บ มีการติดเชื้อแทรกซ้อนได้ เป็นต้น
ทั้งนี้ปานแดงหลอดเลือดหากเกิดบนใบหน้าในบริเวณเปลือกตาและหน้าผากด้านใดด้านหนึ่ง ต้องตรวจเพิ่มเติมเพื่อแยกความผิดปกติที่มีโอกาสพบร่วมด้วย เช่น ตา หลอดเลือดสมองผิดปกติที่นำไปสู่โรคลมชัก ดังที่พบในกลุ่มอาการ Sturge Weber
นอกจากนี้ปานแดงหลอดเลือดยังสามารถพบร่วมกับความผิดปกติของหลอดเลือดดำ หลอดน้ำเหลืองได้ เกิดเป็นความผิดปกติของกลุ่มอาการต่างๆอีกมากมาย
หากตัวท่านหรือมีเด็กในความดูแลมีความผิดปกติของหลอดเลือดบนผิวหนัง แนะนำให้ปรึกษาแพทย์เฉพาะทางเพื่อตรวจเพิ่มเติม เพื่อยืนยันการวินิจฉัยและทราบแนวทางการรักษาที่เหมาะสม
ติดต่อเราเพื่อนัดหมายปรึกษา หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่:
- เบอร์โทรศัพท์: 086-353-4562
- Line ID: @lullalitaclinic
- Facebook Page: Lullalita Clinic
- แผนที่: คลิกเพื่อดูเส้นทางมายังคลินิก