ลัลลลิตาคลินิก ผิวหนัง ความงาม โรคเด็กและวัคซีน

เมื่อไหร่ที่ต้องสงสัยว่าลูกเป็นผื่นแพ้นมวัว

เมื่อไหร่ที่ต้องสงสัยว่าลูกเป็นผื่นแพ้นมวัว

ลูกเป็นผื่นแพ้นมวัวหรือไม่

พญ.นิอร บุญเผื่อน แพทย์เฉพาะทางด้านผิวหนังเด็ก ผู้มีประสบการณ์มากกว่า 10 ปีในการดูแลเด็กที่เป็นผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง ได้ตอบคำถามไว้ดังนี้ ปัจจุบันสื่อโซเซียลมีเดียเข้าถึงได้ง่าย เวลาลูกเล็กมีผื่นเมื่อคุณพ่อ คุณแม่ค้นหาเข้าไปในอินเตอร์เน็ต google หรือเข้าไปรวมกลุ่มใน facebook เมื่อได้อ่านข้อมูลอาจจะทำให้คุณพ่อ คุณแม่สับสนหรือสงสัยว่าลูกของคุณเป็นผื่นแพ้นมวัวหรือเปล่า เนื่องจากโรคนี้ถูกกล่าวถึงเป็นวงกว้างในช่วงหลายปีที่ผ่านมา

หมอจะมาคลายข้อสงสัยให้คุณพ่อ คุณแม่ค่ะ

โรคผื่นผิวหนังอักเสบและมีอาการคันในเด็ก มีได้หลายสาเหตุและที่พบได้บ่อย ได้แก่ ผื่นลมพิษ ผื่นผิวหนังอักเสบจากการระคายเคือง ผื่นแพ้สัมผัสจากผลิตภัณฑ์ ผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง ผื่นผิวหนังอักเสบจากการแพ้อาหาร และอื่นๆ ผื่นแบบไหนกันแน่ที่ควรสงสัยว่าเกิดจากนมวัว

ผื่นแพ้นมวัวมีอาการทางผิวหนังได้ 3 ประเภทใหญ่ๆ คือ

  1. ปฏิกิริยาตอบสนองต่ออาการแพ้แบบเฉียบพลัน ได้แก่ ลมพิษ ปากบวม ในบางรายที่มีอาการรุนแรงสามารถพบอาการตามระบบอื่นๆร่วมด้วย เช่น หายใจไม่สะดวกจากกล่องเสียงบวมหรือหลอดลมตีบ ความดันโลหิตต่ำ อาเจียน เป็นต้น อาการจะเกิดขึ้นภายใน 30 นาที ช้าที่สุดไม่เกิน 4 ชั่วโมง เมื่อได้รับนมวัว
  2. ปฏิกิริยาตอบสนองต่ออาการแพ้แบบช้า ได้แก่ ผื่นผิวหนังอักเสบ พบว่าผิวหนังจะมีอาการอักเสบ แดง มีน้ำเหลืองไหลเยิ้ม เป็นต้น อาการจะเกิดขึ้นช้าใช้เวลาหลายวันหลังจากได้รับนมวัว แต่ในครั้งหลังๆอาการแสดงให้เห็นเร็วขึ้น
  3. ปฏิกิริยาตอบสนองต่ออาการแพ้แบบเฉียบพลันและแบบช้าร่วมกัน

เมื่อไหร่ที่ต้องสงสัยว่าลูกเป็นผื่นแพ้นมวัว

  1. เมื่อดื่มนมวัวหรือรับประทานผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของนมวัวแล้วมีผื่นลมพิษขึ้นภายใน 30 นาทีถึง 4 ชั่วโมง เมื่อได้รับนมวัวมีผื่นลมพิษขึ้นทุกรอบ
  2. เมื่อดื่มนมวัวหรือรับประทานผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของนมวัวแล้วมีผื่นผิวหนังอักเสบเกิดขึ้น หรือทำให้ผื่นที่มีอยู่แล้วแย่ลง ทั้งที่ได้รับการดูแลผิวและรักษาการอักเสบอย่างถูกต้องและเหมาะสมแล้ว แต่การประเมินเพื่อหาความสัมพันธ์กับเวลาในกลุ่มนี้ทำได้ยากเนื่องจากระยะเวลาไม่ชัดเจนเหมือนในกลุ่มอาการเฉียบพลัน

ทำอย่างไรต่อดีเมื่อสงสัยว่าลูกแพ้นมวัว

กรณีการแพ้แบบเฉียบพลันไม่แนะนำให้ทดลองให้อาหารเองโดยตั้งใจ เนื่องจากมีโอกาสเกิดการแพ้แบบรุนแรงเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตได้ค่ะ แนะนำให้ปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจเพิ่มเติม แพทย์จะพิจารณาตามความเหมาะสมว่ากรณีใดควรทดสอบโดยวิธีสะกิดที่ผิวหนัง หรือตรวจเลือดเพื่อหาแอนติบอดีจำเพาะต่ออาหารค่ะ

 

หากสงสัยอาการแพ้แบบผิวหนังอักเสบ แพทย์จะแนะนำให้เด็กงดดื่มนมวัวหรืองดรับประทานอาหารที่มีส่วนผสมของนมวัว อย่างน้อย  2-4 สัปดาห์ หากผื่นไม่ดีขึ้นแสดงว่านมวัวไม่น่าจะใช่สาเหตุ แต่หากงดนมวัวแล้วดีขึ้นแสดงว่ามีโอกาสเป็นไปได้จากนมวัว เมื่อผื่นหายสนิทให้นมวัวกลับเข้าไปใหม่ หากเกิดผื่น สามารถช่วยยืนยันการวินิจฉัยได้ว่าผื่นมีความสัมพันธ์กับนมวัวจริง ทางการแพทย์เรียกว่า elimination & rechallenge test หากผื่นหายสนิทแล้ว ทดลองให้นมวัวกลับไปซ้ำ แต่ไม่มีอาการกำเริบของผื่น แปลว่า นมวัวไม่ใช่สาเหตุของผื่น เด็กไม่จำเป็นต้องงดนมวัว หลักการนี้สามารถใช้ได้กับกรณีสงสัยการแพ้อาหารอื่นๆด้วย

 

การยืนยันการวินิจฉัยที่ชัดเจนจะมีการทดสอบอาหารด้วยวิธีการปกปิดสองด้าน (Double-blinded placebo -controlled food challenge test) แต่ข้อเสียของวิธีนี้คือ ต้องสังเกตอาการที่โรงพยาบาล มีขั้นตอนและความยุ่งยากเนื่องจากต้องมีการเตรียมอาหารแบบปกปิด โดยผู้ทดสอบและแพทย์ผู้ดูแลไม่ทราบว่าครั้งใดได้อาหารจริงหรืออาหารหลอก จะทราบเฉพาะผู้จัดเตรียมอาหารเท่านั้น เพื่อลดอคติในแปลผลการทดสอบและลดความกลัวในการรับประทานอาหารที่สงสัย เป็นวิธีที่ได้มาตรฐานที่สุดในการวินิจฉัย ทั้งยังทำให้ทราบระดับที่ผู้ป่วยทนได้หรือเริ่มเกิดอาการแพ้อีกด้วย

 

หากสงสัยเรื่องผื่นแพ้นมวัว แนะนำให้ปรึกษาแพทย์เฉพาะทางด้านผิวหนัง หรือภูมิแพ้ เพื่อที่จะไม่ต้องหยุดหรือเปลี่ยนนม รวมถึงงดอาหารอื่นๆโดยไม่จำเป็น ซึ่งอาจส่งผลต่อภาวะโภชนาการของลูกหรือคุณแม่ได้ค่ะ

 

 

เเชร์โพสต์นี้
Facebook
Twitter
LinkedIn