โรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง (Atopic Dermatitis): เข้าใจสาเหตุ รู้จักอาการ ดูแลอย่างถูกวิธี โดย พญ.นิอร บุญเผื่อน
โรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง หรือ Atopic Dermatitis (AD) เป็นภาวะผิวหนังอักเสบเรื้อรังที่สร้างความกังวลใจให้หลายครอบครัว โดยเฉพาะผู้ที่มีบุตรหลานเล็กๆ แต่อย่างไรก็ตาม โรคนี้สามารถพบได้ในผู้ใหญ่เช่นกัน สร้างความคัน รำคาญ และส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตอย่างมาก การทำความเข้าใจโรคอย่างลึกซึ้ง และแนวทางการดูแลรักษาที่ถูกต้อง จึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการควบคุมอาการและป้องกันภาวะแทรกซ้อน
วันนี้เราจะมาเจาะลึกเรื่องโรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง พร้อมข้อมูลอันเป็นประโยชน์จาก พญ.นิอร บุญเผื่อน นายแพทย์ชำนาญการพิเศษ สถาบันโรคผิวหนัง ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังเด็กและโรคผิวหนัง
โรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนังคืออะไร? สาเหตุเกิดจากอะไร?
พญ.นิอร บุญเผื่อน แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคผิวหนังเด็กและผู้ใหญ่ มีประสบการณ์ในการรักษาโรคผิวหนังมากว่า 10 ปีอธิบายว่า โรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนังคือภาวะที่เกิดจากความผิดปกติของ เกราะป้องกันผิว (Skin Barrier) ทำให้ผิวหนังแห้งเสียความชุ่มชื้นได้ง่าย และไวต่อสิ่งกระตุ้นจากภายนอกมากกว่าปกติ นอกจากนี้ยังมีความเกี่ยวข้องกับ ระบบภูมิคุ้มกัน ที่ตอบสนองต่อสิ่งกระตุ้นบางอย่างมากเกินไป รวมถึง ปัจจัยทางพันธุกรรม ที่เป็นปัจจัยสำคัญที่สุด หากคนในครอบครัวมีประวัติเป็นโรคภูมิแพ้อื่นๆ เช่น หอบหืด ภูมิแพ้จมูก หรือแพ้อาหาร ผู้ป่วยก็จะมีโอกาสเป็นโรคนี้ได้สูงขึ้น
สรุปสาเหตุและปัจจัยกระตุ้นหลัก:
- พันธุกรรม: มีประวัติภูมิแพ้ในครอบครัว (หอบหืด ภูมิแพ้จมูก แพ้อาหาร)
- ความผิดปกติของเกราะป้องกันผิว: ผิวขาดโปรตีนสำคัญ (เช่น Filaggrin) ทำให้ผิวแห้งง่าย และสิ่งกระตุ้นเข้าสู่ผิวได้ง่าย
- ระบบภูมิคุ้มกันที่ทำงานผิดปกติ: ร่างกายตอบสนองต่อสิ่งกระตุ้นมากเกินไป
- สิ่งกระตุ้นจากภายนอก:
- สารก่อภูมิแพ้: ไรฝุ่น, ละอองเกสร, ขนสัตว์, เชื้อรา, อาหารบางชนิด
- สารระคายเคือง: สบู่, ผงซักฟอก, น้ำหอม, สารเคมี, เสื้อผ้าขนสัตว์
- สภาพอากาศ: อากาศแห้ง, เย็นจัด, ร้อนจัด, เหงื่อออกมาก
- การติดเชื้อ: โดยเฉพาะเชื้อแบคทีเรีย Staphylococcus aureus
- ความเครียด: สามารถทำให้อาการกำเริบ
สังเกตอาการ: ผื่นภูมิแพ้ผิวหนังเป็นอย่างไร?
อาการของโรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนังจะแตกต่างกันไปตามวัย แต่มีอาการหลักที่พบได้เสมอคือ ผิวแห้งและคันมาก ซึ่งมักนำไปสู่การเกาจนเกิดปัญหาอื่นๆ ตามมา
- วัยทารก (2-3 เดือนขึ้นไป): ผื่นแดงเป็นตุ่มเล็กๆ หรือผื่นแห้ง มักขึ้นบริเวณ ใบหน้า แก้ม ศอก เข่าด้านนอก รวมถึงบริเวณที่เกิดการเสียดสี ทารกจะคันมากและหงุดหงิด
- วัยเด็กโต (หลัง 2 ปี): ผื่นมักขึ้นบริเวณ ข้อพับต่างๆ เช่น ข้อพับแขน ข้อพับขา ซอกคอ ผิวหนังบริเวณผื่นอาจหนาตัวขึ้น มีขุย และมีสีคล้ำจากการเกาเรื้อรัง
- วัยผู้ใหญ่: ผื่นจะคล้ายกับวัยเด็กโต บางรายอาการอาจดีขึ้นหรือหายไปเองเมื่อโตขึ้น แต่บางรายก็ยังคงมีอาการต่อเนื่อง
การวินิจฉัยและการรักษาโรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
พญ.นิอร บุญเผื่อน ย้ำว่า การรักษาโรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนังควรอยู่ภายใต้การดูแลของ แพทย์ผิวหนัง เพื่อการวินิจฉัยที่แม่นยำและวางแผนการรักษาที่เหมาะสมที่สุด
แนวทางการรักษาหลัก:
- การให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว (Moisturizer):สำคัญที่สุด ควรทาสารให้ความชุ่มชื้นเป็นประจำทุกวัน อย่างน้อย 2-3 ครั้ง โดยเฉพาะหลังอาบน้ำทันที เลือกผลิตภัณฑ์ที่ ไม่มีน้ำหอม ไม่มสี แอลกอฮอล์ หรือสารระคายเคือง เพื่อเสริมสร้างเกราะป้องกันผิว
- ยาทาลดการอักเสบ:
- ยาทากลุ่มสเตียรอยด์:มีประสิทธิภาพสูงในการลดอักเสบ ใช้ตามคำแนะนำแพทย์เท่านั้น เมื่อผื่นหายควรหยุดยา เพื่อป้องกันผลข้างเคียง
- ยาทาลดการอักเสบกลุ่มที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ (Calcineurin Inhibitors):ใช้ได้ในระยะยาว หรือบริเวณผิวบอบบาง
- ยาชนิดรับประทาน:ในกรณีผื่นรุนแรง แพทย์อาจพิจารณาให้ยาแก้แพ้ หรือยาอื่นๆ เพื่อควบคุมอาการ
- ควบคุมปัจจัยกระตุ้น:หลีกเลี่ยงสิ่งที่ทำให้ผื่นกำเริบ
- การป้องกันและรักษาการติดเชื้อ:หากมีการติดเชื้อแทรกซ้อน แพทย์อาจให้ยาปฏิชีวนะ
ในผู้ป่วยโรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนังบางรายที่อาการรุนแรงมาก โดยไม่ตอบสนองต่อการรักษาปกติ แพทย์จะพิจารณาการรักษาแนวทางอื่นร่วมกับผู้ป่วยและผู้ดูแล เช่น การฉายแสงาทิตย์เทียม การรับประทานยาปรับภูมิคุ้มกันและการฉีดยาชีวโมเลกุลที่มีข้อบ่งชี้โดยเฉพาะสำหรับการรักษาโรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง
คำแนะนำและการดูแลตัวเอง: ชีวิตปกติกับโรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง
เพื่อให้ผลการรักษาดีขึ้นและป้องกันการกำเริบของโรค พญ.นิอร บุญเผื่อน แนะนำการดูแลตนเองดังนี้:
- อาบน้ำอย่างถูกวิธี: ไม่เกิน 2 ครั้งต่อวัน ไม่ใช้น้ำอุ่น ใช้สบู่ที่อ่อนโยน ไม่มีสี ไม่มีน้ำหอม ไม่มีฟอง และทาโลชั่นเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิวทันทีหลังอาบน้ำ
- หลีกเลี่ยงการเกา: ตัดเล็บให้สั้น หรือใส่ถุงมือในเด็กเล็ก
- เลือกเสื้อผ้าเหมาะสม: ผ้าฝ้าย เนื้อนุ่ม ระบายอากาศดี ไม่รัดแน่น
- จัดการความเครียด: การผ่อนคลายช่วยลดการกำเริบของอาการได้
- ปรึกษาแพทย์สม่ำเสมอ: เพื่อติดตามอาการและปรับแผนการรักษา
- หลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยง: ไรฝุ่น ควันบุหรี่ อุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลงรุนแรง
สรุป: การอยู่ร่วมกับโรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนังอย่างมีความสุข
โรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนังแม้เป็นโรคเรื้อรังที่ต้องดูแลอย่างต่อเนื่อง แต่ด้วยความเข้าใจที่ถูกต้อง การปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ และการดูแลตัวเองอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยควบคุมอาการ ลดความรุนแรงของโรค และป้องกันภาวะแทรกซ้อนต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากคุณหรือคนในครอบครัวมีอาการของโรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง อย่าลังเลที่จะปรึกษา แพทย์ผิวหนังผู้เชี่ยวชาญ เพื่อรับการวินิจฉัยและวางแผนการรักษาที่เหมาะสมที่สุด เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
Tel. 0863434562
Line@: @lullalitaclinic
Map: https://maps.app.goo.gl/evBBKvU7ntgvTq9S8